26 กรกฎาคม 2562

ข่าวในประเทศ


  • ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ร.10 เร่งเครื่องสถานีสูบฯ ชลหารพิจิตร
    3
    นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน ตรวจสภาพความเสียหายของสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 และได้กล่าวว่าพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชกระแสรับสั่งทรงห่วงใยความเสียหายที่เกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถานีสูบน้ำสำคัญ ทำหน้าที่ระบายน้ำออกสู่ทะเล เพื่อป้องกันบรรเทาภัยน้ำเหนือที่จะหลากลงมาท่วมขังในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ไม่ให้ได้รับความเสียหาย

    รองอธิบดีกรมชลประทานกล่าวอีกว่า แต่จากสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงสภาวะน้ำทางตอนเหนือมีมากขึ้นเรื่อย ๆ กรมชลประทานจึงได้พิจารณาก่อสร้างโครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำชลหารพิจิตร โดยการก่อสร้างสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตรแห่งที่ 3 วงเงิน 613 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเมื่อ 16 ม.ค. 2559

    เมื่อแล้วเสร็จช่วยระบายน้ำได้อีก 60 ลบ.ม.ต่อวินาที เมื่อรวมกับสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 1–2 จะช่วยระบายน้ำได้ถึงวันละ 15.5 ล้าน ลบ.ม. ช่วยทำให้เกิดความมั่นใจได้ว่า กรมชลประทานสามารถ บริหารจัดการน้ำบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ทุ่งเจ้าพระยาฝั่งตะวันออกได้

    ปัจจุบันสถานีสูบน้ำชลหารพิจิตร 3 ได้ดำเนินการไปแล้วประมาณร้อยละ 60 และกรมชลประทานจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงาน 10 ต.ค. ที่จะถึงนี้.


  • รื้อฟื้นคดีโฮปเวลล์! อัยการสูงสุดพบหลักฐานใหม่ยื่นศาลสู้ต่อ

    นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางอัยการได้มีการตรวจสอบพบหลักฐานใหม่ที่เห็นว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) สามารถนำมาต่อสู้คดี จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ รฟท.จ่ายค่าชดเชยแก่บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด จากการบอกเลิกสัญญาโครงการระบบการขนส่งทางรถไฟและถนนยกระดับรวมเป็นเงิน 11,888.75 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยต้องจ่ายค่าชดเชยให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่คดีสิ้นสุด โดยความคืบหน้าล่าสุดพบว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ อดีต รมว.คมนาคม ได้ลงนามมอบอำนาจให้สำนักงานอัยการสูงสุด ดำเนินการยื่นหลักฐานใหม่ในคดีโฮปเวลล์เพื่อขอให้ศาลปกครองสูงสุดรื้อฟื้นคดีขึ้นมาพิจารณาใหม่ เนื่องจากอัยการตรวจสอบพบว่ามีหลักฐานใหม่ที่ รฟท.สามารถนำมาใช้ต่อสู้คดีกับโฮปเวลล์ได้

ข่าวการเมือง


  • จับตา 70 ปี “ทักษิณ” วางมือการเมือง เช้านี้เตรียมโฟนอินข้ามประเทศ

    นายจอม เพชรประดับ อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความส่วนตัวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมระบุว่า “ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะวางมือทางการเมืองด้วยวัย 70 ปี จริงหรือไม่ ฟังคำตอบได้ วันที่ 26 กรกฎาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 09.30 น. เป็นต้นไปตามเวลาไทย ในโอกาส ปาร์ตี้คล้ายวันเกิด Live สดผ่านช่องทางนี้และอีกหลายช่องทางทั้งเฟซบุ๊ก และ ยูทูบ”

    โดยอดีตนายกฯ ทักษิณ จะ Phone in จาก นครดูไบ ไปยัง นครลอสแอนเจอลิส สหรัฐอเมริกา ในงานร่วมยินดี เนื่องในวันคล้ายวันเกิด ซึ่งจัดโดย กลุ่มคนไทยผู้รักประชาธิปไตยใน แอลเอ. สหรัฐอเมริกา


  • เสรีพิศุทธ์เสียใจประยุทธ์ตัดพี่ตัดน้อง ชมประวิตรไม่โกรธโดนแซวเรื่องนาฬิการุ่น “ยืมเพื่อนมา”

    หลังจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย จนทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศตัดพี่ตัดน้อง ไม่ขอนับเป็นรุ่นพี่อีกต่อไปกลางสภา จนกระทั่งเกิดการประท้วงวุ่นวายในสภา และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานในที่ประชุมได้เชิญ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ให้ออกจากห้องประชุม เพราะไม่ยอมถอนคำพูดว่า “โกงเลือกตั้ง หน้าด้าน”

    พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่โดน พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตัดพี่ตัดน้องว่า “ผมก็เสียใจนะเสียน้องไปคนหนึ่ง ต้องกลับบ้านไปร้องไห้แล้ว เสียน้องชายไปคนหนึ่ง”

    นอกจากนี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้กล่าวชื่นชม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไม่โกรธที่ตนเองถามเรื่องนาฬิกา เพราะตนหวังดีกลัวว่านักข่าวจะเห็นว่าใส่นาฬิกา รุ่น “ยืมเพื่อนมา” แต่ยังไม่คืนสักที จะเกิดปัญหา


ข่าวเศรษฐกิจ


  • สรรพากร ยอมรับนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ลดภาษีรายได้บุคคลธรรมดา 10% กระทบรายได้-เสถียรภาพการคลัง จ่อเสนอขุนคลัง เก็บภาษี “อี-บิซิเนส” สร้างความเท่าเทียม

    นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยถึงการดำเนินนโยบายหาเสียงลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ของพรรคพลังประชารัฐ ว่า กรมสรรพากรได้ให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สสค.) ศึกษาแผนการปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ โดยแนวทางการปรับลดภาษีมี 2 แนวทาง คือ หัก 10% จากอัตราการจัดเก็บภาษีบุคคลธรรมดาจากปกติที่เก็บในอัตราก้าวหน้าตั้งแต่ 5-35% โดยตรง เช่น ผู้ที่ต้องจ่ายภาษีในอัตรา 35% ลด 10% จะเหลือ 25% หรืออีกแนวทางหนึ่งคือ ลด 10% ของอัตราเดิม เช่น ผู้ที่ต้องจ่าย 35 % ได้ลด 10% ของ 35 คือได้ลด 3.5% แต่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
    “หากลดภาษีจริงจะกระทบรายได้ของกรมสรรพากร และอาจกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลัง เนื่องจากปัจจุบันภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้ถึง 400,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่นโยบายหาเสียง ลดภาษีแม่ค้าออนไลน์ 2 ปีนั้น กำลังศึกษาเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้แม่ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์”
    ขณะเดียวกันจะเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เร่งผลักดันกฎหมายการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Business) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งจะสร้างความเท่าเทียมทั้งคนไทยที่ให้บริการต่างประเทศ และคนต่างประเทศที่เข้ามาให้บริการในไทย โดยขณะนี้มีหลายประเทศใช้กฎหมาย E-Business แล้ว อาทิ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส เป็นต้น ส่วนกรณีการแก้ไขกฎหมาย เก็บภาษีดอกเบี้ยจากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม ให้เท่ากับการลงทุนในตราสารหนี้โดยตรงนั้น จะรอดูภาพรวมว่าจะกระทบต่อการระดมทุนหรือไม่และรอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญก่อน


  • “หอการค้า” หารือ รมต.เศรษฐกิจ ชงแก้ส่งออก-ค้านค่าแรงสี่ร้อย
    นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว คณะกรรมการหอการค้าไทย จะขอเข้าพบหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจทุกกระทรวงเพื่อหารือนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลและแนวทางความร่วมมือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะปัจจุบันเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยมาก ซึ่งนโยบายในภาพรวมหากรัฐบาลเห็นว่าโครงการเดิมของรัฐบาลก่อนดีก็ควรสานต่อ แต่หากมีปัญหาก็ควรยุติ ขณะที่นโยบายเร่งด่วนที่จะนำมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจถือว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่รัฐบาลคงต้องดูเรื่องวิธีการ และแนวทางปฏิบัติที่จะทำให้บรรลุตามเป้าหมาย เพราะทีมเศรษฐกิจมาจากหลายพรรคการเมือง จำเป็นต้องพูดคุยกันให้มากเพื่อให้การทำงานไปในทิศทางเดียวกันตามที่รัฐบาลได้แถลงไว้
    ส่วนการแก้ปัญหาส่งออกนั้น มองว่าต้องเร่งส่งเสริมการค้าชายแดนให้มากขึ้น ผลักดันโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการค้า รวมทั้งยังต้องการให้สนับสนุนการใช้เงินสกุลท้องถิ่น และอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ขณะที่การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศนั้น สมาชิกหอการค้าไม่เห็นด้วยหากจะขึ้นค่าแรงอัตราเดียว เพราะจะทำให้เอสเอ็มอีกระทบจนถึงขั้นปิดกิจการ เลิกจ้างงาน จึงต้องการให้ยกระดับแรงงานให้มีทักษะเพื่อให้ปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เป็นเทรนด์ในอนาคตมากกว่าจะใช้วิธีการขึ้นค่าแรง

ข่าวต่างประเทศ


  • “สหรัฐ” เตรียมประหารนักโทษครั้งแรกในรอบ 16 ปี
    นายวิลเลียม บาร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เรื่อง การได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการจากสภาคองเกรส และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามรับรองให้สำงานราชทัณฑ์กลาง (บีโอพี) เตรียมกำหนดการประหารชีวิตนักโทษ 5 คน และจัดวางตารางเวลาไว้ระหว่างเดือน ธ.ค. 62 ถึงเดือน ม.ค. 63 ทั้งนี้ นักโทษทั้ง 5 คนซึ่งศาลฎีกาในกรุงวอชิงตันพิพากษายืนบทลงโทษประหารชีวิต และจะรับโทษเป็นกลุ่มแรกนั้น กระทรวงยุติธรรมสหรัฐคัดเลือกนักโทษซึ่งศาลฎีกาพิพากษายืนให้รับโทษประหารชีวิต และจำคุกมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 ปี จาการก่อคดีอุกฉกรจจ์ที่เกี่ยวกับเด็กและการฆาตกรรม ซึ่งรวมถึงนายแดเนียล ลูว์อิส ลี ซึ่งก่อเหตุปล้นและสังหารเหยื่อทั้งครอบครัว 3 ชีวิต เมื่อปี 2539 และหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุเพียง 8 ปี โดยลีจะรับโทษเป็นคนแรกในวันที่ 9 ธ.ค. นี้

  • “อียู” ยังเย็นชาต่อข้อเสนอเบร็กซิทของรัฐบาลจอห์นสัน
    นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวต่อที่ประชุมสภาสามัญเมื่อวันพฤหัสบดี หรือเพียงวันเดียวหลังรับตำแหน่งต่อจากนางเทเรซา เมย์ ยืนยันสหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ตามกำหนดอย่างแน่นอน (31 ต.ค. นี้) แต่ในระหว่างนี้เขาจะพยายามเจรจากับสหภาพเพื่อแก้ไขเนื้อหาบางส่วนในข้อตกลงที่รัฐบาลชุดก่อนหน้าเสนอไปแล้ว และที่ประชุมสมาชิกอียู 27 ประเทศให้การรับรอง ซึ่งจอห์นสันยืนกรานว่าเป็นข้อตกลงที่ใช้ไม่ได้สำหรับสหราชอาณาจักร จากการที่สภาสามัญปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวถึง 3 ครั้งติดต่อกัน
    อย่าไรก็ตาม นายฌอง-โคลด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวว่าข้อตกลงถอนตัวฉบับปัจจุบันเป็นข้อตกลงซึ่งสมาชิกอียูอีก 27 ประเทศพิจารณาแล้วว่าเหมาะสมที่สุด แต่สหภาพพร้อมพินิจพิเคราะห์ข้อเสนอใหม่จากรัฐบาลสหราชอาณาจักรชุดใหม่ โดยเทียบกับข้อตกลงของรัฐบาลชุดที่แล้ว ด้านนายมิเชล บาร์นิเยร์ หัวหน้าคณะเจรจาเบร็กซิตของอียู กล่าวว่าท่าทีของรัฐบาลจอห์นสันเป็นการ “ออกตัวแรง” ตามความคาดหมายของอียู แต่เป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับสหภาพมากกว่า และอียูพร้อมรับมือกับกลยุทธ์ทุกแบบ จากรัฐบาลสหราชอาณาจักรชุดใหม่ แม้จอห์นสันกล่าวว่าเขาพร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขเรื่องพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์ที่เป็นรัฐเอกราชแต่ตั้งอยู่บนเกาะเดียวกัน และเป็นหนึ่งในข้อขัดแย้งสำคัญระหว่างอียูกับสหราชอาณาจักรในการจัดทำข้อตกลง

สภาพอากาศ

  • ทั่วไทยมีฝนต่อเนื่อง “เหนือ-อีสาน” ชุ่มฉ่ำ ตกร้อยละ 60 ของพื้นที่

    กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศลักษณะทั่วไป ระบุ พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่องในระยะนี้ โดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก มีการกระจายของฝนมากกว่าบริเวณอื่น ๆ

    สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

    ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา มรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและประเทศไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม ประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    – ภาคเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน พิษณุโลก กำแพงเพชร และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ สุรินทร์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

    – ภาคกลาง มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    – ภาคตะวันออก มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

    – ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

    – ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    – กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.