19 กุมภาพันธ์ 2561

ข่าวในประเทศ

  • รมว. กษ. (นายกฤษฎา บุญราช) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับเอกอัครราชทูต ประจำประเทศไทยทั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ อิสราเอล โปแลนด์ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และปากีสถาน ว่า กษ. มีความยินดีที่ทูตแต่ละประเทศให้ความสนใจเข้าพบและพร้อมให้ความร่วมมือกับ กษ. ในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งฝ่ายไทยได้แจ้งว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับแต่ละประเทศเช่นกัน ซึ่งประเด็นสำคัญที่ไทยได้หยิบยกและแลกเปลี่ยนความร่วมมือที่จะก่อให้เกิดผลประโยชน์ระดับทวิภาคี แบ่งเป็น 6 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ (1) ความร่วมมือด้านวิชาการเกษตร (2) การพัฒนาบุคลากร นวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตร (3) การเปิดตลาดสินค้าเกษตระหว่างกันทั้งสินค้าเดิมและสินค้าใหม่ (4) การลดปัญหาอุปสรรคการนำเข้า – ส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกัน (5) การเชิญชวนให้แต่ละประเทศเพิ่มการค้าการลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี โดยเฉพาะด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และ (6) การชี้แจงแนวทางการแก้ไขปัญหาประมงไอยูยูของรัฐบาลไทย 
  • รมว. รง. (พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาด้านแรงงานประมงทะเลและแปรรูปสัตว์น้ำว่า รัฐบาลไทยได้มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมงอย่างจริงจังในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และได้ดำเนินการออกมาตรการเพื่อคุ้มครองแรงงานทั้งในด้านกฎหมาย นโยบาย การบังคับใช้ การเยียวยาคุ้มครองผู้เสียหาย รวมทั้งมีความร่วมมือกับทั้งภาคเอกชน NGOs องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สหภาพยุโรป (EU) และรัฐบาลของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ด้านแรงงานในภาคประมงเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีและพัฒนาขึ้นในหลายด้าน ทั้งนี้ รัฐบาลมั่นใจว่าการดำเนินการที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาแรงงานประมงในประเทศไทยให้หมดไปจากประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน โดยได้ดำเนินมาตรการที่มีความคืบหน้าในหลายประการ อาทิ การบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพ การตรวจแรงงานอย่างเข้มข้นและเป็นระบบ

ข่าวการเมือง

  • โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด) กล่าวถึงความคืบหน้าของคณะอนุกรรมการเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ซึ่งแต่งตั้งโดยนายกรัฐมนตรีที่มุ่งเน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในฐานะปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยคณะอนุกรรมการดังกล่าวประกอบด้วยเครือข่ายภาคเอกชน ภาครัฐ และภาคประชาสังคม ร่วมกันขับเคลื่อนการปลูกฝังหลักคิด 5 ประการสู่สังคม ได้แก่ ความพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตสาธารณะ และมีความรับผิดชอบ เพื่อให้เป็นพื้นฐานของการดำเนินชีวิตทั้งปวงที่จะช่วยเตือนสติและยับยั้งพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ทั้งนี้ หลักคิด 5 ประการนั้นเชื่อมโยงกับความดีงามตามแนวทางไทยนิยมยั่งยืน ที่จะนำพาสังคมไปสู่ความเจริญก้าวหน้าให้สอดรับกับโมเดลพัฒนาคนไทย 4.0 ในศตวรรษที่ 21
  • นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กล่าวว่า ในการประชุม กมธ. ร่วมวันที่ 19 ก.พ. 61 จะมีเลือกประธาน กมธ.ร่วม และตำแหน่งต่าง ๆ การกำหนดวันประชุม และการกำหนดแนวทางหารือ ซึ่งประเด็นหลัก ๆ ที่ กมธ. ร่วมจะพิจารณาทบทวนคือ การลดจำนวนกลุ่มอาชีพ ส.ว. จาก 20 กลุ่ม เหลือ 10 กลุ่ม การเปลี่ยนวิธีเลือก ส.ว. จากการเลือกไขว้เป็นเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ พร้อมยืนยันว่า กมธ. ร่วมทำหน้าที่โดยยึดหลักเหตุผล ไม่ได้เข้ามาแบบมีธง เพื่อทำให้เกิดปัญหาให้มีการคว่ำกฎหมายลูกตามมา

ข่าวเศรษฐกิจ

  • รมว. คค. (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ) เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับบริษัท ขนส่ง (บขส.) ถึงการปรับตัวไปสู่ผู้นำของระบบรถโดยสารสาธารณะ หรือรถทัวร์ของประเทศว่าผลประกอบการ บขส.ฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปี 60 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาท เติบโตขึ้นมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ดังนั้น ปีนี้ตั้งเป้าต้องมีกำไรสุทธิ 120 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 7 เท่าตัว หรือ 700% เมื่อเทียบกับปี 60 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การเพิ่มขึ้นของรายได้ที่ไม่ใช่ด้านเดินรถ อาทิ รายได้จากการขนส่งพัสดุภัณฑ์ที่เติบโตมาก การพัฒนาศูนย์ซ่อมบำรุง ตลอดจนการลดต้นทุนค่าซ่อมบำรุง รถโดยสารในระบบฟลีทด้วย นอกจากนี้ ประธานกรรมการบริษัท ขนส่ง กล่าวว่า บขส. เตรียมยกระดับธุรกิจไปสู่การเป็นผู้นำระบบรถบัสสาธารณะและระบบขนส่งเชื่อมต่อระบบรางทั้งรถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง โดยมีแผนลงทุนจัดซื้อรถโดยสารใหม่ เพื่อรองรับธุรกิจระยะยาวจำนวนทั้งสิ้น 369 คัน มูลค่า 2,372 ล้านบาท ตลอดจนสามารถปรับตัวเพื่อแข่งขันกับเที่ยวบินโลว์คอสต์และรถไฟความเร็วสูงได้ต่อไปในอนาคต
  • รมช. พณ. (นางสาวชุติมา บุณยประภัศร) เปิดเผยว่า สถานการณ์ส่งออกข้าวปี 61 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 6 ก.พ. 61 ไทยสามารถส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของโลกประมาณ 1 ล้านตัน โดยเป็นการส่งออกข้าวขาว 7.7 แสนตัน ราคาส่งออกอยู่ระหว่าง 422 – 470 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน คำนวณเป็นราคาข้าวเปลือกที่ประมาณ 7,550 – 8,200 บาท/ตัน สูงกว่าราคาข้าวขาวของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การส่งออกข้าวของไทยมีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 60 ไทยส่งออกข้าวได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ปริมาณ 11.63 ล้านตัน และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกข้าวขาวมากที่สุดปริมาณกว่า 5 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 43% ของปริมาณการส่งออกข้าวรวม นอกจากนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขยายตลาดข้าวเพื่อสุขภาพ ข้าวกล้องชนิดต่าง ๆ เพื่อเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าสินค้าข้าว
  • ผู้อำนวยการสำนักนโยบายเศรษฐกิจมหภาค (นายศรพล ตุลยะเสถียร) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ปีนี้เศรษฐกิจจะขยายตัว 4.2% แต่สิ่งที่เป็นห่วงมากที่สุดคือการแข็งค่าของค่าเงินบาท โดยแข็งค่าเพิ่มขึ้น 3.35%  ผู้ส่งออกต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ส่วนของ กค. พยายามลดแรงกดดัน ด้วยการชำระต้นเงินกู้ต่างประเทศของรัฐบาล และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจที่มีแผนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่นำเข้าเครื่องมือ เครื่องจักร มาใช้ในการลงทุนเพราะใช้เงินบาทซื้อในราคาถูกลง และหวังว่า ธปท. จะพิจารณาออกเครื่องมือเพื่อให้ค่าเงินบาทแข็งค่าน้อยลง

ข่าวต่างประเทศ

  • สำนักข่าวเกียวโตรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติแผนขยายเวลาที่ชาวญี่ปุ่นจะขอรับเงินบำนาญไปได้ถึงอายุมากกว่า 71 ปี จากในปัจจุบันที่อายุ 60 – 70 ปี เพื่อให้ชาวญี่ปุ่นสามารถทำงานได้นานขึ้น พร้อมจะผลักดันให้เอกชนยืดอายุการเกษียณงาน หรือขยายโครงการจ้างงานหลังเกษียณ ในการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังผลักดันแผนการดังกล่าว ด้วยการจะเตรียมแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องในปีงบประมาณ 2020 เพื่อสนับสนุนให้ชาวญี่ปุ่นอายุมากกว่า 60 ปี สามารถทำงานต่อได้ รวมถึงจะยืดอายุการเกษียณงานของข้าราชการจำนวน 3.4 ล้านคน ในขณะนี้ ไปเป็น 65 ปี จาก 60 ปี ในปัจจุบัน นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นจะส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ เช่น ระบบการขับขี่รถอัตโนมัติและหุ่นยนต์พยาบาล เพื่อช่วยให้คนสูงอายุสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น

  • ประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ (นายจาคอบ ซูมา) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าประพฤติทุจริตคอร์รัปชั่น ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีแอฟริกาใต้เมื่อวานนี้ ตามคำสั่งของพรรคสภาแห่งชาติแอฟริกา(เอเอ็นซี) พรรครัฐบาล ถือเป็นการปิดฉากผู้นำที่มีแต่เรื่องอื้อฉาว ที่บริหารประเทศมานาน 9 ปี

สภาพอากาศ

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง สำหรับบริเวณภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า ส่วนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 22 – 24 ก.พ. 2561 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรกหลังจากนั้นจะมีอุณหภูมิลดลง 2 – 4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรงโดยจะเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่น ๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีโอกาสสูงในการเกิดฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร