19 มิถุนายน 2561

ข่าวในประเทศ

 

  • รมต.นร. (นายสุวพันธุ์ฯ) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 66 พรรษา 28 ก.ค. 61 ว่า เป็นการประชุมเพื่อซักซ้อมและเตรียมการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา เพื่อให้เป็นไปอย่างสมพระเกียรติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ทั้งนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างการนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ณ ท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 22 -28 ก.ค. 2561 ซึ่งกิจกรรมประกอบด้วย 1. การจัดริ้วขบวนอัญเชิญเครื่องราชสักการะ และพิธีถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 28 ก.ค. 2561 โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้แทนประชาชนทุกหมู่เหล่ากล่าวถวายพระพรชัยมงคล 2. การจัดนิทรรศการภาพกิจกรรมจิตอาสาในโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว“เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” 3. กิจกรรมการให้บริการประชาชนในด้านต่างๆ ระหว่างวันที่ 27 -28 ก.ค. 2561 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เช่น การฝึกอาชีพ  การฝึกพับดอกบัว การพับดอกกุหลาบจากใบเตยหอม เป็นต้น

  • นรม. พร้อมด้วย รอง นรม. และผู้บริหารระดับสูงจะเดินทางเยือน สหราชอาณาจักรและสาธารณรัฐฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20-26 มิ.ย. 61 โดยมีกำหนดการ ดังนี้ วันที่ 20 มิ.ย. 61 หารือกับนางเทรีซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร วันที่ 21 มิ.ย. เปิดงาน “Transforming Thailand” วันที่ 22 มิ.ย. หารือกับนายกีโยม โฟรี ประธานบริษัท แอร์บัส คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ สาธารณรัฐฝรั่งเศส และร่วมพิธีเปิดตัวแบบจำลองศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน และเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความตกลงสัญญากรอบการร่วมทุน ระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับบริษัท แอร์บัส คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ วันที่ 23 มิ.ย. หารือภาคเอกชนไทยในฝรั่งเศส ก่อนจะมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทย และพบปะชุมชนไทย ที่กรุงปารีส วันที่ 24 มิ.ย. ปฏิบัติภารกิจที่กรุงปารีส วันที่ 25 มิ.ย. ในช่วงเช้าหารือกับภาคเอกชนฝรั่งเศสที่สนใจลงทุนในไทย และกล่าวเปิดงาน Business Conference ซึ่งจัดโดยสภานายจ้างฝรั่งเศส ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส จากนั้น ในช่วงบ่าย หารือกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทั้งนี้ ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ จะร่วมกันเป็นสักขีพยานในพิธีแลกเปลี่ยนความตกลงสัญญากรอบการร่วมทุนระหว่างบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กับ บริษัท แอร์บัส คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ และสัญญาซื้อขายดาวเทียมธีออส 2 ระหว่างสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ  (องค์การมหาชน) กับบริษัท แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ เอสเอเอส และมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทย ในวันที่ 26 มิ.ย. 61

ข่าวการเมือง

  • นรม. ยินดีที่ได้พบเลขาธิการอาเซียนอีกครั้งหลังการประชุมผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 8 และแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการต่อการเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการอาเซียนคนที่ 14 ซึ่งนับเป็นโอกาสดีที่ไทยและสำนักเลขาธิการอาเซียนจะเสริมสร้างความร่วมมือให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ไทยเตรียมการเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 ไทยพร้อมที่จะสนับสนุนการทำงานร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียนในการผลักดันวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน ค.ศ. 2025 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ นรม. กล่าวถึงความสำคัญของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ต้องร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้สามารถสร้างอำนาจต่อรองในเรื่องต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสินค้าทางการเกษตร ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศสมาชิกอาเซียนซึ่งเลขาธิการอาเซียนเห็นด้วย เพราะสินค้าทางการเกษตรเป็นเอกลักษณ์และข้อได้เปรียบของอาเซียนทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยอาเซียนสามารถเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโลกได้

  • ประธาน กกต. (นายศุภชัยฯ) กล่าวถึงการรับฟังความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ว่า หลังจาก 30 วัน ที่รับฟังความคิดเห็นแล้ว ต้องสรุปและเสนอรัฐบาลเพื่อปรับแก้ไข ส่วนแนวโน้มการปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือไม่นั้นเป็นการพิจารณาของ สนช. โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปแสดงความคิดเห็นได้ทางเว็บไซต์ กกต. ภายในเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ร่าง พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น จะมีการปรับแก้ตามที่ กกต. และ สนช. เคยเสนอ ส่วนการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือการเลือกตั้ง ส.ส. ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หาก พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ กกต. จะต้องดำเนินจัดการเลือกตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 150 วัน ขณะที่การเลือกตั้งท้องถิ่น กกต. จะมีฐานะเป็นผู้ควบคุมโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดเลือกตั้ง ทั้งนี้ การเลือกตั้งทั้ง 2 ระดับ นั้นควรมีระยะเวลาห่างกัน 3 เดือน เนื่องจากการเลือกตั้งท้องถิ่นมีเรื่องร้องเรียนมาก ต้องสืบสวนไต่สวน ต้องใช้เวลาดำเนินการมาก

ข่าวเศรษฐกิจ

  • อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นายอดุลย์ฯ) เปิดเผยว่า สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อการค้า การส่งออกของไทยบ้าง เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานของการค้าโลก อาจจะทำให้การส่งออกสินค้าบางรายการที่ส่งไปจีน และเข้าสหรัฐลดลง แต่ในขณะเดียวกันจีนมีมาตรการตอบโต้ ด้วยการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐกว่า 128 รายการ จึงเป็นโอกาสของไทยที่จะส่งออกสินค้าที่จีนนิยมเข้าไปยังตลาดจีนได้มากขึ้น ประกอบกับไทยเองมีข้อตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ อาเซียน-จีน ซึ่งทำให้สินค้าหลายรายการที่ส่งเข้าไปยังจีนนั้นได้รับการยกเว้นภาษี และไทยเองก็ยังมีกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ที่จะมีการเชื่อมโยงเส้นทางการค้าระหว่างกลุ่มประเทศ ซีแอลเอ็มวี ไทย และจีนทางตอนใต้ ทำให้การขนส่งสินค้าของไทยเข้าไปจีนมีโอกาสมากขึ้น ส่วนที่สหรัฐฯ กีดกันไม่ให้นำเข้าสินค้าจีนกว่า 1,300 รายการนั้น ก็ต้องติดตามว่าจะส่งผลให้สินค้าจากจีนไหลทะลักเข้ามาในอาเซียนมากน้อยแค่ไหน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีมาตรการทางการค้า เพื่อป้องกันการทุ่มตลาดอยู่แล้ว

  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (นายสุพันธุ์ฯ) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน พ.ค. 61 พบว่า ดัชนีอยู่ที่ระดับ 90.2 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 89.1 ในเดือน เม.ย.61 โดยค่าดัชนีที่เพิ่มขึ้น เกิดจากองค์ประกอบยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการ และผลประกอบการ โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการเห็นว่าภาพรวมเศรษฐกิจภายในประเทศยังขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลดีต่อภาคการผลิต รวมทั้งการส่งออกได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า สะท้อนจากคำสั่งซื้อโดยรวม และยอดขายโดยรวมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีแผนการขยายการลงทุนเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างไรก็ดี ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามจากการที่ผู้ประกอบการยังมีความกังวลต่อราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือน พ.ค. ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อแปลงกลับมาเป็นเงินบาท ทำให้สูญเสียรายได้จากการส่งออก

ข่าวต่างประเทศ

  • สำนักข่าวเอเอฟพีและเอพีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ว่า แถลงการณ์ของอียู จากสำนักงานใหญ่ในกรุงบรัสเซลส์ กล่าวว่า “สหภาพยุโรปยังคงยึดมั่นต่ออธิปไตยและเอกภาพแห่งดินแดนของยูเครน และยังคงประณามการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศของรัสเซียต่อไป” และ “คณะมนตรีรัฐสมาชิกสหภาพยุโรปตัดสินใจขยายมาตรการคว่ำบาตรเพื่อตอบโต้การผนวกดินแดนไครเมียและเซวาสโตปอลโดยผิดกฎหมายต่อไป จนถึงวันที่ 23 มิ.ย. 2562” มาตรการคว่ำบาตรมีผลบังคับต่อพลเมืองและบริษัทของอียู ห้ามนำเข้าสินค้าจากไครเมียและเซวาสโตปอล ยุติการลงทุนและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ของยุโรป และห้ามเรือสำราญของยุโรปเข้าจอดเทียบท่าต่าง ๆ ของ 2 ดินแดนดังกล่าว มาตรการใหม่ยังรวมถึงการห้ามส่งออกสินค้าและเทคโนโลยีบางชนิดที่สามารถใช้สำหรับการขนส่ง การสื่อสารโทรคมนาคม หรือในภาคพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมัน ก๊าซ หรือการสำรวจแหล่งแร่ นอกจากมาตรการสำหรับไครเมียแล้ว อียูยังคงมาตรการคว่ำบาตรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมของรัสเซียในยูเครน รวมถึงการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ห้ามการเดินทางของบุคคล อายัดทรัพย์บุคคลเป้าหมายกว่า 150 คน

  • สถาบันเปลี่ยนผ่านแห่งชาติอินเดีย (นิติ) เปิดเผยรายงานว่า ภายในปี 2030 ความต้องการใช้น้ำของอินเดียจะมีสัดส่วนสูงกว่าซัพพลาย 2 เท่า ซึ่งจะทำให้ประชากรหลายร้อยล้านคนประสบภาวะขาดแคลนน้ำและจะส่งผลกระทบให้ผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ลดลงราว 6% นอกจากนี้ นิติ เปิดเผยว่า อินเดียมีผู้เสียชีวิตเนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงน้ำสะอาด 2 แสนคน/ปี และมีผู้ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอีก 600 ล้านคน “อินเดียกำลังจะเผชิญกับวิกฤตขาดแคลนน้ำครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศ และเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอยู่หลายล้านชีวิต” รายงานระบุพร้อมเตือนว่า 21 รัฐของอินเดียอาจไม่มีน้ำบาดาลใช้ในปี 2020 และอาจเกิดปัญหาขาดแคลนอาหารเพราะอินเดียใช้น้ำ 80% สำหรับอุตสาหกรรมการเกษตร

สภาพภูมิอากาศ

  • ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณอ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 20 มิ.ย. 61 สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑลมีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากในระหว่างบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.