23 สิงหาคม 2561

ข่าวในประเทศ

  • เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 61 เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ นรม. ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดย นรม. ได้กล่าวชื่นชมการทำหน้าที่ตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสมีพลวัตเพิ่มขึ้นในทุกมิติ รวมถึงขอให้นักลงทุนฝรั่งเศสมั่นใจและตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมย้ำถึงความจริงใจของรัฐบาลที่จะกระชับและเพิ่มพูนความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจกับฝรั่งเศสจากการวางยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ซึ่งจะทำให้ทิศทางและนโยบายการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในเขต EEC มีความต่อเนื่องในระยะยาว

  • ตช. โดยผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะ คกก. แก้ไขปัญหาจราจร ชี้แจงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ กรณีการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ. การขนส่งทางบก โดยเพิ่มโทษกรณีขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เป็นจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และกรณีไม่พกใบอนุญาตขับขี่ ปรับไม่เกิน 10,000 บาทว่า กรมการขนส่งทางบกเป็นผู้เสนอให้มีการปรับแก้กฎหมายดังกล่าว และฝ่ายตำรวจก็เห็นด้วยในประเด็นการเพิ่มโทษแก่ผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เนื่องจากเป็นอันตรายต่อผู้อื่น และมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก แต่จำนวนเงินค่าปรับที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นเพียงอัตราโทษปรับสูงสุดที่ระบุไว้ตามกฎหมายเท่านั้น นอกจากนี้  ตช. อยู่ระหว่างการพิจารณายกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับให้กับตำรวจจราจร เพื่อป้องกันข้อครหาการกวดขันวินัยจราจรบนท้องถนน

  • เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 61 กองอํานวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศไทยให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ในช่วงวันที่ 23 – 27 ส.ค. 61 หลังจากได้ติดตามสภาวะอากาศพบว่า ทั่วไทยมีฝนตกหนักและมีปริมาณฝนสะสมจนอาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันภัยและเตรียมความพร้อมรับมือจึงได้ออกประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงดังกล่าว โดยพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ดินโคลนถล่มเป็นพิเศษ ได้แก่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก ลําปาง พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก ลําพูน กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จันทบุรี ตราด ระยอง ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และ กระบี่

ข่าวการเมือง

  • เลขาธิการ กกต. (พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา) ได้ประชุม คกก. ยกร่างระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการประกาศใช้ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. โดยเลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า หาก พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีการประกาศใช้แล้วก็สามารถออกระเบียบรองรับได้ทันที ซึ่งเนื้อหาจะเป็นการกำหนดขอบเขตการหาเสียงของพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือผู้ใดทางอิเล็กทรอนิกส์ว่าสามารถดำเนินการในลักษณะใดได้บ้าง โดยจะต้องแจ้งต่อ กกต. ล่วงหน้า และต้องรับผิดชอบเนื้อหาไม่ให้เป็นการใส่ร้าย เพราะจะเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายซึ่งมีโทษค่อนข้างรุนแรง นอกจากนี้ ในช่วงการเลือกตั้งจะมีการตั้งวอร์รูมพิเศษ ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก ดศ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ผ่านสังคมออนไลน์ ส่วนค่าใช้จ่ายในการหาเสียงผ่านสังคมออนไลน์นั้นยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะคิดคำนวณ โดย กกต. ได้มอบให้รองเลขาธิการ กกต. (นายแสวง บุญมี) ไปพิจารณารูปแบบต่อไป

ข่าวเศรษฐกิจ

  • รมว.อก. เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 24-25 ส.ค. 61 นี้ คณะรัฐบาลและนักธุรกิจจากจีนประมาณ 504 คน นำโดย นายหวัง หย่ง มนตรีแห่งรัฐของจีน จะเดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยจะมีการลงนามใน MOU ร่วมกันทั้งรัฐและเอกชนประมาณ 17 ฉบับ โดย 7 ฉบับจะเป็นรัฐต่อรัฐ เน้นในเรื่องการค้า การลงทุน โดยเฉพาะการลงนามร่วมระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กับ พณ. จีน ส่วนอีก 10 ฉบับเป็นเรื่องของเอกชนที่จะลงนามร่วมกันลงทุนใน EEC ซึ่งการเยือนของนักลงทุนจีนครั้งนี้จะมีความร่วมมือใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จีนมีนโยบาย Made in China 2025 ที่กำหนดเป้าหมายอุตสาหกรรมไว้ 5 อุตสาหกรรมที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย 2) การพัฒนาคนและเทคโนโลยีเพื่อรองรับไทยแลนด์ 4.0 และ 3) การเชื่อมโยง EEC กับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูงไทย-จีนที่สอดรับ One Belt One Road
  • รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกสินค้าไทยในเดือน ก.ค. 61 มีมูลค่า 20,423.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.27% เป็นการขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 นับตั้งแต่เดือน มี.ค. 60 ซึ่ง พณ. มั่นใจว่าการส่งออกในปี 61 จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ 8% โดยพิจารณาได้จากการส่งออกมีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากการที่เศรษฐกิจโลกขยายตัวชัดเจน และแม้ว่าการส่งออกจะเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในนโยบายการค้า และความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนที่อาจกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยน แต่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย เพราะมีการกระจายการส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ และตลาดที่มีศักยภาพอื่นๆ ทดแทน

ข่าวต่างประเทศ

  • ธนาคารกลางรัสเซียซื้อทองคำ 26.1 ตันในเดือน ก.ค. ถือเป็นการเข้าซื้อเดือนเดียวมากสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2017 ทำให้ปริมาณทองคำสำรองที่อยู่ในความครอบครองเพิ่มขึ้นเป็น 2,170 ตัน โดยธนาคารกลางรัสเซียชี้แจงว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกระจายคลังสำรองของประเทศให้มีความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งสภาทองคำโลก (World Gold Council) ระบุว่า รัสเซียไม่ใช่แค่ผู้ซื้อทองคำอย่างเป็นทางการรายใหญ่ที่สุด แต่ยังเป็นชาติผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกด้วย โดยธนาคารกลางรัสเซียซื้อทองคำจากเหมืองภายในประเทศผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในช่วงทศวรรษที่แล้วเหมืองรัสเซียสามารถผลิตทองคำได้มากกว่า 2,000 ตัน และคาดหมายว่ากำลังผลิตทองคำรายปีของรัสเซียจะเพิ่มขึ้นอีก 400 ตันภายในปี 2030

  • ผู้แทนจากสหรัฐฯ และจีนเตรียมเปิดการเจรจาทางการค้าอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่า ปธน. สหรัฐฯ ได้กล่าวแสดงความเห็นว่า ไม่ได้คาดหวังความคืบหน้าจากการเจรจาด้านการค้าดังกล่าวกับจีน และตนเองไม่มีกรอบเวลาที่จะยุติข้อพิพาทกับจีน ซึ่งการเจรจาดังกล่าวคาดว่าจะมีการต่อรองกันในหลายประเด็น เนื่องจากในวันพฤหัสบดีที่ 23 ส.ค. 61 นี้ เป็นวันที่สหรัฐฯ จะใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 25 วงเงิน 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ สื่อมวลชนของสหรัฐฯ ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ของทั้ง 2 ฝ่ายกำลังเร่งทำ roadmap เพื่อผลักดันให้มีการบรรลุข้อตกลงทางการค้า ซึ่งจะนำไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่าง ปธน. ของสหรัฐฯ และจีนในเดือน พ.ย. 61 นี้

  • รัฐบาลไต้หวันได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอลซัลวาดอร์ หลัง กต. จีนและเอลซัลวาดอร์มีการประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกัน โดยรัฐบาลไต้หวันกล่าวว่า ฝ่ายเอลซัลวาดอร์ร้องขอเงินทุนจำนวนมหาศาลในโครงการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งไต้หวันไม่เห็นควรอนุมัติ เนื่องจากจะทำให้ทั้งสองฝ่ายเป็นหนี้จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจีนและเอลซัลวาดอร์นั้น ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมที่กรุงปักกิ่งเพื่อสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันที่ระดับเอกอัครราชทูต ทั้งนี้ จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ไต้หวันเหลือพันธมิตรอยู่เพียง 17 ประเทศทั่วโลก ในขณะที่มีประเทศต่าง ๆ หันไปผูกสัมพันธ์กับจีนมากขึ้น ซึ่งการตัดขาดจากเอลซัลวาดอร์ในครั้งนี้ถือเป็นประเทศที่ 5 ที่รัฐบาลไต้หวันสูญเสียพันธมิตรไป หลังตัดสัมพันธ์กับบูร์กินาฟาโซ และสาธารณรัฐโดมินิกันไปก่อนหน้านี้

พยากรณ์อากาศ

  • ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเมฆมากประกอบกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคใต้ มีเมฆเป็นส่วนมากประกอบกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมากประกอบกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ซึ่งในภาพรวมของทั้งประเทศนั้น มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ จึงต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก