1 ธันวาคม 2561

ข่าวในประเทศ

  • นรม. และหัวหน้า คสช. กล่าวผ่านรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่ง เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ ว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชานุญาตให้จัดกิจกรรมปั่นจักรยาน “Bike อุ่นไอรัก” ขึ้น ถือเป็นส่วนหนึ่งของงาน “อุ่นไอรัก คลายความหนาว สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” โดยกิจกรรมดังกล่าวมีประชาชนมาลงทะเบียนเข้าร่วมแล้ว มากกว่า 640,000 ราย โดยในวันที่ 1-2 ธ.ค. นี้ จะมีกิจกรรมรับเสื้อพระราชทาน ทั้งใน กทม. และต่างจังหวัด รวมทั้งการซ้อมใหญ่ในเส้นทางปั่นจริงในวันอาทิตย์ที่ 2 ธ.ค. ดังนั้นจึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนใช้รถสาธารณะ แทนการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลเข้ามาในพื้นที่จัดกิจกรรม และหลีกเลี่ยงเส้นทางปั่นจักรยาน และหากเป็นไปได้ ขอให้วันนั้นเป็นวันปลอดรถ  สำหรับวันที่ 4 ธ.ค. ซี่งเป็นวันสิ่งแวดล้อมไทย และวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และวันดินโลก ดังนั้น นรม. ได้ขอให้ประชาชนชาวไทยแสดงความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทรัพยากรดิน นอกจากนี้ นรม. ได้ฝากเรื่องสำคัญ ดังนี้ 1. การช่วยกันเฝ้าระวัง รักษาสิทธิ รู้จักหน้าที่ในการป้องกันและแก้ไขการขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า 2. การบริหารจัดการขยะที่ต้องแก้ที่ต้นทาง เช่น ลดการทิ้งขยะลงด้วยการแยกขยะก่อนทิ้งและไม่ทิ้งขยะในพื้นที่สาธารณะ เพราะจะทำให้บ้านเมืองสกปรกและเสียหาย 3. การเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด และ 4. การแก้ปัญหารุนแรงในครอบครัว
  • รนม. ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กห. (พล.อ.ประวิตรฯ)  ได้กำชับให้ กทม. และ สตช. กวดขันการขับขี่รถจักรยานยนต์บนฟุตบาธหรือขับขี่ย้อนศร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องจริงจัง และขอความร่วมมือกับผู้ที่ขับขี่บนฟุตบาธให้ปฏิบัติให้ถูกต้องและเคารพกฎจราจรและเคารพสิทธิ์ของผู้ใช้ทางเท้า เนื่องจากผลกระทบของอุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นนำไปสู่การเสียชีวิตที่อยู่อันดับต้น ๆ ของโลก ด้านโฆษก กห. กล่าวว่า สำหรับที่ กทม. ได้เพิ่มโทษค่าปรับจาก 500 บาท เป็น 1,000 บาท   ถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งเพื่อให้คนตระหนักต่อเรื่องดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างวินัยเชื่อว่าน่าจะมีอีกหลายมาตรการ รัฐบาลทำเพียงลำพังไม่ได้ ต้องขอความร่วมมือจากภาคเอกชนและผู้ขับขี่
  • รองเลขาธิการ สศช. (นายดนุชา พิชยนันท์) เปิดเผยภายหลังการประชุม คกก.ยุทธศาสตร์ชาติ โดยมี นรม. เป็นประธานเมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมาว่าที่ประชุมฯ เห็นชอบในหลักการการกำหนดประเด็นการพัฒนาเร่งด่วนในช่วงระยะ 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติใน 15 ประเด็น โดยจำแนกออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.การแก้ไขปัญหาพื้นฐานของประเทศ เพื่อให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งในเชิงโครงสร้างและการบริหารจัดการ รวมทั้งสามารถต่อยอดการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ต่อไป 2. การดูแลยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีความเสมอภาคเท่าเทียมกันในด้านต่าง ๆ มีความพอเพียงและสามารถพึ่งพาตนเองได้ 3. การรองรับการเจริญเติบโตอย่างเป็นระบบและยั่งยืน เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและพื้นที่เศรษฐกิจเป้าหมายอย่างเป็นระบบ ดึงดูดและรองรับการเจริญเติบโตให้กับประเทศ และ 4. การสร้างรายได้ให้กับประเทศ เพื่อขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจที่สำคัญบนฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้มอบหมายให้ สศช. ประสาน คกก.จัดทำยุทธศาสตร์ชาติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ สงป. ในการดำเนินการจัดทำรายละเอียดแผนงาน/โครงการของ 15 ประเด็นการพัฒนาเร่งด่วนในช่วงระยะ 5 ปีแรกของยุทธศาสตร์ชาติ รวมทั้งข้อเสนอของที่ประชุม เช่น การส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกร และการบริหารจัดการน้ำไว้ในเรื่องเร่งด่วน  ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีการหารือเกี่ยวกับการจัดสรรงบฯ ในการพัฒนาประเทศที่งบฯ มีวงเงินลงทุนประมาณ 5 -6 แสนล้านบาท ซึ่งจะต้องมีการจัดสรรงบฯ ในส่วนนี้ให้สอดคล้องกับ 15 ประเด็นเร่งด่วน ในการจัดสรรงบฯ ปี 63 สำหรับการใช้งบฯ ในปี 62  สปง. ได้ชี้แจงว่าสามารถแปรญัตติงบฯ มาใช้ในการสนับสนุนการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ชาติที่เป็นเรื่องเร่งด่วนได้ โดยคาดว่าจะสามารถนำเสนอรายละเอียดต่อ คกก.ยุทธศาสตร์ชาติ และ ครม. พิจารณาภายในช่วงกลางเดือน ม.ค. 62 ต่อไป

ข่าวการเมือง


ข่าวเศรษฐกิจ

  • รมว.อก. กล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “Factory 4.0 : อุตสาหกรรมมั่นคง ของแรงงานไทย” ว่า ปัจจุบันการแข่งขันทางการค้าและระบบเศรษฐกิจโลกมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาจากปัจจัยด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้ทุกภาคส่วน เริ่มมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการทำงานตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยอีกปัจจัยที่ทาง อก. ให้ความสำคัญและเล็งเห็นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ คือ การพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม โดยการปรับเปลี่ยนทักษะ (Re-skill) และเพิ่มทักษะ (Up-skill) ฝีมือและความชำนาญทั้งในเชิงคุณภาพและมาตรฐานของแรงงานไทย ให้สอดรับกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง
  • ผอ. ท่าอากาศยานภูเก็ต (เรืออากาศตรีธานี ช่วงชู) กล่าวว่า ท่าอากาศยานภูเก็ตได้อนุมัติให้สายการบินที่มีความประสงค์ที่จะพานักท่องเที่ยวมาลงที่สนามบินภูเก็ตในช่วง Winter Skate หรือช่วงไฮซีซั่น ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 61ไปจนถึง 31 มี.ค. 62 จะได้รับส่วนลดในเรื่องของค่า Landing ค่าภาษีสำหรับผู้โดยสารจากปกติราคาหัวละ 700 บาทได้ส่วนลด 200 บาท จะเรียกเก็บเพียง500 บาท ซึ่งถือเป็นการคืนโบนัสให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ท่าอากาศยานภูเก็ตยังได้มีมาตรการอื่น ๆที่ออกมาเพื่อช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว อาทิ เรื่องการจัดระเบียบ สนามบินการให้บริการรถสาธารณะที่สนามบินทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้มีการจัดระเบียบโดย เปิดศูนย์ขนส่งเพื่อให้ การให้บริการรถสาธารณะ เกิดความคล่องตัวและเป็นระเบียบมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินการเปิดจุดบริการเคาน์เตอร์เพิ่มขึ้นในกับการเช็คอินของกรุ๊ปทัวร์ โดยการท่าฯ ได้รับอนุมัติงบฯ เพิ่มเติม ปี62 เพื่อดำเนินการปรับปรุงบริเวณรับนักท่องเที่ยวดังกล่าว
  • รองโฆษกกรมสรรพสามิต (นายณัฐกร อุเทนสุต) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินงานตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.  60 และจูงใจผู้ที่อยู่นอกระบบให้เข้ามาสู่ระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมากรมสรรพสามิตได้จัดทำแผนเฉพาะกิจปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิต โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจากสำนักตรวจสอบ ป้องกันและปราบปราม และเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมสนธิกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตามพื้นที่เป้าหมายที่คาดว่าอาจมีการกระทำผิด เพื่อสร้างความเป็นธรรม โปร่งใส และความมั่นใจให้แก่ผู้ประกอบการ ที่เสียภาษีโดยสุจริต และเพื่อเป็นมาตรการเสริมทางอ้อมในการดูแลสุขภาพของผู้บริโภคให้บริโภคสินค้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากการบริโภคสินค้าที่หลีกเลี่ยงภาษีจะเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพมากกว่าสินค้าโดยทั่วไป ซึ่งจากผลการตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตตาม พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 60 ผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศ ปีงบประมาณ 62 (ระหว่างวันที่ 23 – 29 พ.ย. 61) พบว่ามีการกระทำผิด จำนวน 547 คดี คิดเป็นเงินค่าปรับ 9.66 ล้านบาท
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้จัดทำรายงานสรุปผลการสำรวจอุปทานและอุปสงค์ของโครงการที่อยู่อาศัยที่อยู่ระหว่างการขายในช่วงครึ่งแรกปี 61 ในพื้นที่ กทม. – ปริมณฑล โดยนับเฉพาะโครงการที่มีหน่วยเหลือขายไม่ต่ำกว่า 6 หน่วย จากการสำรวจพบว่า มีโครงการที่อยู่อาศัยอยู่ระหว่างการขายจำนวน 1,494 โครงการ มีหน่วยในผังโครงการรวมทั้งสิ้น 452,614 หน่วย จำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 60 ร้อยละ 0.3 มีมูลค่าโครงการรวม 1,774,691 ล้านบาท

ข่าวต่างประเทศ

  • เอเอฟพีรายงานว่า นายนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ได้มีแถลงการณ์ว่า รัฐบาลได้อนุมัติการขึ้นเงินค่าแรงขึ้นต่ำจากปัจจุบันที่ 1,800 โบลิวาร์ เป็น 4,500 โบลิวาร์ หรือเพิ่มขึ้นราว 150% หรือเทียบเท่ากับ 10 ดอลลาร์ (330 บาท) โดยให้มีผลทันทีในวันที่ 1 ธ.ค. นี้เป็นต้นไป ตามการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในเวเนซุเอลา จะยิ่งย่ำแย่ลงไปอีกภายในปี 2019 นี้ โดยอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งทะยานขึ้นสูงถึง 10 ล้านเปอร์เซนต์ ทั้งนี้ เวเนซุเอลาเริ่มประสบปัญหาทางเศรษฐกิจย่ำแย่ตั้งแต่ปี 2014 ด้วยปัจจัยจากราคาน้ำมันโลกที่ตกต่ำ ส่งผลให้รายได้ของรัฐบาลขาดหายไป และไม่มีเงินไปใช้จ่ายในโครงการประชานิยม จนทำให้ประชาชนนับล้านคนต้องอพยพลี้ภัยเศรษฐกิจไปยังประเทศใกล้เคียงแล้วกว่า 2 ล้านคน
  • เจแปนไทม์รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณามรดกโลกขององค์การยูเนสโก ณ เมืองพอร์ตลูอิส ประเทศมอริเชียส ได้ประกาศรับรองให้นามะฮะเงะ เทศกาลเทพเจ้าปีศาจ แห่งอะกิตะ ในจังหวัดอะกิตะ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (intangible cultural heritage) อย่างเป็นทางการแล้ว
  • สำนักอนุรักษ์ของนิวซีแลนด์เปิดเผยว่า ทางการได้พบวาฬนำร่องนอนตายเกยฝั่งเพิ่มเติมอีกจำนวน 51 ตัว ในพื้นที่ชายฝั่งของอ่าวฮัตสันเบย์ ใกล้เมืองโอเวนก้า บนเกาะชาตัม ของนิวซีแลนด์ โดยรายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่ของหน่วยอนุุรักษ์นิวซีแลนด์ได้พบกับวาฬจำนวน 80-90 ตัว นอนเกยชายหาดอยู่จึงรีบเข้าช่วยเหลือ และสามารถผลักดันวาฬบางส่วนกลับคืนสู่ทะเลได้ราว 30-40 ตัว ขณะที่อีกราว 50 ตัวทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยชีวิตพวกมันได้ อย่างไรก็ดี สาเหตุที่บรรดาวาฬนำร่องว่ายมาเกยตื้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า พวกมันอาจจะป่วย หรือหลงทางด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวน หรือด้วยปัจจัยอื่นหลายประการประกอบกัน

สภาพอากาศ

  • บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียส กับมีหมอกในตอนเช้าและมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง บริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง