ข่าวในประเทศ

พล.ร.ต.ไพศาล มีศรี ผู้บัญชาการกองเรือฟรีเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ น.อ.Matthew J. Jerbi ผู้บังคับการกองเรือพิฆาตที่ 7 กองทัพเรือสหรัฐฯ ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสม CARAT 2019 ณ ลานหน้ากองบัญชาการเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ ท่าเรือแหลมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี การฝึกผสม CARAT 2019 จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 28 พ.ค.-8 มิ.ย. 62 ซึ่งกองทัพเรือโดยกองเรือยุทธการได้มอบหมายให้กองเรือฟริเกตที่ 2 เป็นหน่วยรับผิดชอบการฝึก โดยมี พล.ร.ต.ไพศาล มีศรี ผู้บัญชา การกองเรือฟริเกตที่ 2 กองเรือยุทธการ เป็นผู้อำนวยการการฝึกผสม CARAT 2019 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความชำนาญ และขีดความสามารถขององค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี ซึ่งจะมีการวางแผน การฝึกและปฏิบัติการร่วมระหว่าง กองทัพไทย กับกองกำลังสหรัฐฯ

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากการติดตามการตอบสนองของประชาชนในสื่อช่องทางต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด พบว่าประชาชนชาวไทยให้ความสนใจกับน้ำมันกัญชามากขึ้น ทั้งในแง่การใช้งานและการรับรู้ข่าวสารทางสื่อกระแสหลักและสื่อโซเชียลต่าง ๆ เกี่ยวกับประโยชน์ทางการแพทย์และผลข้างเคียงจากการใช้อย่างไม่ถูกต้อง ทั้งนี้ ประชาชนจำนวนมากสามารถเข้าถึงความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับประโยชน์และผลข้างเคียงจากการใช้น้ำมันกัญชารักษา แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความไม่เข้าใจต่อวิธีการใช้งานและมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้น้ำมันกัญชาสกัดปะปนอยู่ด้วย จึงปรากฏเป็นข่าวผลกระทบทางสุขภาพจากการใช้งานน้ำมันกัญชาสกัดอย่างไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารตลาดไทร่วมเปิดเทศกาลตลาดไท ทุเรียนไทคุณภาพ เพื่อส่งเสริมการผลิตของเกษตรกร และการจำหน่ายทุเรียน โดยกรมส่งเสริมการเกษตร และจังหวัดปทุมธานี ร่วมกับตลาดไท กำหนดจัดงานเทศกาล ตลาดไท ทุเรียนไทคุณภาพ มาตั้งแต่วันที่ 25 ถึงวันที่ 31 พ.ค. 62 เพื่อส่งเสริมการผลิตของเกษตรกร และการจำหน่ายทุเรียนคุณภาพ พร้อมทั้งสร้างการรับรู้และเข้าถึงข้อมูลการดูทุเรียนคุณภาพไปยังประชาชนทั่วไป เพื่อให้เกิดการยกระดับทุเรียนไทยให้มีชื่อเสียงด้านคุณภาพ อันจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อการค้าทุเรียน

ข่าวการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการจัดตั้งรัฐบาลว่า เป็นเรื่องของพรรคการเมือง จึงขอให้รอความชัดเจน ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและธรรมเนียมปฏิบัติ ส่วนตัวนายกรัฐมนตรีเคารพกฎหมาย คะแนนเสียงของทุกพรรค และความต้องการของประชาชน ไม่ว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องทำตามนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการมีส่วนร่วมของทุกพรรคการเมือง นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีหวังเพียงให้บ้านเมืองเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างต่อเนื่อง จึงอยากให้สังคมมองเรื่องของผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักด้วยความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะขณะนี้เรากำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายหลายอย่าง ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจโลก การแข่งขันในภูมิภาค และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน โดยไม่อยากให้โยงนายกรัฐมนตรีไปเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองของพรรค ดังนั้น หากเป็นเรื่องการเมืองให้สอบถามกับพรรคการเมืองจะเหมาะสมกว่า

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า ในวันพฤหัสที่ 30 พ.ค. นี้ ทางกองพิธีการทำเนียบรัฐบาลได้เรียกประชุม จนท. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจำนวน 30 คน ในเวลา 08.30 น. ที่ห้องประชุม 235 ที่ตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการประชุมเตรียมความพร้อมรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ในส่วนของกองพิธีการ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 พ.ค. นั้น นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่มีวาระงานหรือภาระกิจอย่างเป็นทางการใด ๆ ทั้งสิ้น คาดว่าคงเข้าทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลตามปกติเช่นทุกวัน แหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลมีเวลาอีกประมาณ 15 วัน นับจากนี้ ที่จะสะสางงานก่อนส่งมอบให้รัฐบาลใหม่

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า ขณะนี้ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีการโปรดเกล้าฯ ประธานสภาผู้แทนราษฎรลงมาแล้วหรือไม่ แต่ตามขั้นตอนแล้วจะต้องลงมาที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ส่วนกรณีที่กองพิธีการ ทำเนียบรัฐบาล จะมีการประชุมเตรียมการรับนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องเตรียมการอยู่แล้ว ซึ่งทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำเรื่องมาให้ตนเองดู ทั้งพิธีเปิดและคุณสมบัติต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเตรียมการล่วงหน้าเป็นเดือน นายวิษณุฯ ยังกล่าวว่าในส่วนกรอบเวลาที่จะได้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น ล่าช้าไปกว่าที่ตนคาดคิดเพราะกระบวนการเลือกประธานและรองประธานสภาฯ ใช้เวลาถึง 2 วัน จึงเกิดปัญหา ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2551 ซึ่ง นายชวน หลีกภัย ว่าที่ประธานสภาฯ จะแม่นในข้อบังคับนี้ โดยตามกำหนดการจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จะต้องแจ้งสมาชิกรัฐสภาล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน และสามารถนัดประชุมในวันเสาร์อาทิตย์ได้

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พาคณะสื่อมวลชนตรวจความคืบหน้างานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในส่วนห้องประชุมจันทรา เพื่อใช้สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ชั่วคราว ความคืบหน้าล่าสุด ยังอยู่ระหว่างการตกแต่งภายใน ติดตั้งพรมปูพื้น เก้าอี้ ในส่วนของสมาชิก และพื้นที่ของประชาชนที่จะเข้าเยี่ยมชมการประชุมสภาฯ โดยยังไม่มีการติดตั้งระบบปรับหรือระบายอากาศ รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการประชุม ทั้งนี้ ห้องประชุมจันทรา ที่รองรับจำนวนสมาชิกได้รวม 350 ที่นั่ง จะสามารถใช้ประชุม ส.ส. ชั่วคราวได้ ปลายเดือน มิ.ย. แน่นอน ทั้งนี้ ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. บริษัทรับจ้างติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่สั่งอุปกรณ์มาจากต่างประเทศ จะเข้าติดตั้งรองรับการประชุม ซึ่งตนและคณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารรัฐสภา จะติดตามงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ห้องประชุมมีความพร้อมต่อการจัดประชุม ส.ส. ชั่วคราวมากที่สุด เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต่อว่า สำหรับการเช่าอาคารหอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ซึ่งสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ทำสัญญาเช่าแบบเดือนต่อเดือน ราคาเดือนละ 12.6 ล้านบาท จะสิ้นสุดสัญญาเดือนแรกประมาณ วันที่ 22 มิ.ย. นี้ หากห้องประชุมจันทราดำเนินการเสร็จทันจะยกเลิกการต่อสัญญาเช่ากับบริษัท ทีโอที เพื่อประหยัดงบประมาณ

ข่าวเศรษฐกิจ

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานประเทศคู่ค้า 9 ประเทศที่ถูกจับตามองในเรื่องของการแทรกแซงค่าเงิน โดยไม่มีรายชื่อของประเทศไทยในบัญชีที่ถูกจับตามอง ซึ่งทำให้เห็นว่าตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาในการหารือร่วมกันระหว่างไทยกับสหรัฐ มีความเข้าใจกันดีว่าไทยไม่ได้แทรกแซงค่าเงิน เพื่อหวังการได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ แต่อย่างใด แต่เป็นความจำเป็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องดูแลค่าเงิน อย่างไรก็ตามแม้ว่าไทยจะไม่ได้อยู่ในรายชื่อแทรกแซงค่าเงินครั้งนี้ แต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ยังต้องติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด เพราะสหรัฐฯ ได้มีการปรับหลักเกณฑ์ในพิจารณาการขึ้นบัญชีประเทศที่บิดเบือนค่าเงินในหลายเกณฑ์ และติดตามประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการแข่งขันการค้าโลกมีความเข้มข้นมากขึ้น ทั้งนี้ 9 ประเทศที่ถูกจับตามองใกล้ชิด ได้แก่ จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไอร์แลนด์ อิตาลี มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม

นางสิริวิภา สุพรรณธเนศ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ก.ล.ต. เตรียมหารือกระทรวงพาณิชย์ และสภาวิชาชีพบัญชีในพระราชูปถัมภ์ เพื่อยกระดับคุณภาพและจรรยาบรรณผู้สอบบัญชีและสำนักงานสอบบัญชีทั้งระบบ เนื่องจากผู้สอบบัญชีในตลาดทุนมีบทบาทสำคัญต่อความน่าเชื่อถือของรายงานทางการเงิน หากมีการบูรณาการเพื่อกำกับดูแลคุณภาพและจรรยาบรรณผู้สอบบัญชีรายบุคคล รวมทั้งสำนักงานสอบบัญชีทั้งระบบ จะช่วยคุ้มครองผู้ลงทุน และรักษาความน่าเชื่อถือของระบบรายงานทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นทั้งนี้ ที่ผ่านมา ก.ล.ต. พบว่ามีอดีตผู้ช่วยผู้สอบบัญชีฝ่าฝืนกฎหมายและจรรยาบรรณของผู้สอบบัญชี เพราะนำข้อมูลภายในซื้อขายหลักทรัพย์ โดย ก.ล.ต. ได้ดำเนินการลงโทษตัวบุคคล และมีหนังสือไปถึงสำนักงานสอบบัญชีต้นสังกัดให้ปรับปรุงระบบให้รัดกุม เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก โดยให้ความสำคัญกับการจัดให้มีระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความลับของลูกค้า และจะติดตามดูแลระบบควบคุมคุณภาพงานสอบบัญชีของสำนักงานสอบบัญชีในตลาดทุนทุกแห่งอย่างใกล้ชิด

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมฯมีโอกาสได้ร่วมจัดกิจกรรมพิเศษภายในงานไทยเฟค 2019 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดและครบวงจรที่สุดงานหนึ่งของเอเชีย โดยกรมฯ ได้ร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย และคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย จัดเวทีสัมมนาในหัวข้อ “Geographical Indications in Thailand and in the European Union and Italy” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตและผู้ประกอบการสินค้าจีไอไทยตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาคุณภาพสินค้าให้ได้ตามมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งเปิดโอกาสในการรับทราบแนวทางการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และโอกาสในการขยายช่องทางการตลาดในระดับสากล สำหรับงานสัมมนาดังกล่าว ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งไทย สหภาพยุโรป และอิตาลี มาร่วมบรรยายแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ เช่น ทูตที่ปรึกษาด้านการเกษตร มาตรการสุขอนามัย และสุขอนามัยพืชและสิ่งแวดล้อม ของสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ร่วมบรรยายเกี่ยวกับระบบจีไอ ในสหภาพยุโรป รวมถึงโอกาสในการแข่งขันทางการค้าของผู้ผลิตและผู้ประกอบการจีไอในอาเซียนและสหภาพยุโรป

ข่าวต่างประเทศ

มาเลเซียเตรียมส่งขยะราว 3,000 ตันที่รีไซเคิลไม่ได้กลับไปยังต้นทางซึ่งเป็นชาติพัฒนาแล้วทั้งสิ้น นาง เหยา บี หยิน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและสิ่งแวดล้อมของมาเลเซียกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางการมาเลเซียจะดำเนินการส่งตู้คอนเทนเนอร์ที่บรรจุขยะจำนวน 69 ตู้ คิดเป็นน้ำหนักราว 3,000 ตัน กลับไปยังประเทศต้นทางซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วและมีความเจริญทางเศรษฐกิจ นางหยินเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า ขยะเหล่านี้ล้วนมาจากต้นทางหลายประเทศทั้ง สหรัฐ แคนาดา จีน ญี่ปุ่น และอังกฤษ โดยก่อนหน้านี้มาเลเซียได้ส่งขยะที่รีไซเคิลไม่ได้ส่วนแรกกลับไปยังประเทศต้นทางอย่างสเปนแล้ว และขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังขยายผลตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์มากกว่า 50 ตู้ ที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมายต่อไป สำหรับมาเลเซียนับตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา มีโรงงานรีไซเคิลขยะผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดอย่างผิดกฎหมาย หลายแห่งนำเข้าขยะคุณภาพต่ำที่รีไซเคิลไม่ได้และมีสารพิษมาจากต่างประเทศซึ่งส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ปีที่แล้วมาเลเซียได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางขยะของโลกแห่งหนึ่ง หลังจากที่ทางการจีนสั่งห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศมาทิ้งยังจีน มาเลเซียเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่ต้องรับขยะเหล่านี้ถึงปีละกว่า 7 ล้านตัน

ธนาคาร DBS Bank วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจเวียดนามจะมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจของสิงคโปร์ภายในปี 2029 เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ เวียดนามได้รับอานิสงส์จากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ทำให้สหรัฐหันมานำเข้าสินค้าของเวียดนามแทนที่จีน ส่วนการลงทุนจากแหล่งต่าง ๆ ก็หลั่งไหลเข้าสู่เวียดนามเพื่อหาที่พักปลอดภัย จากสมรภูมิการโจมตีระหว่างจีนกับสหรัฐ จากการรายงานของ Bloomberg พบว่า สหรัฐนำเข้าสินค้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้นถึง 40.2% ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2019 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และทำให้เวียดนามแซงหน้าอังกฤษ มาอยู่ในอันดับที่ 7 ของประเทศที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐมากที่สุด (ขณะเดียวกันสหรัฐนำเข้าจากจีนลดลง 13.9%) ปัจจัยอื่น ๆ ที่จะทำให้เวียดนามก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจเศรษฐกิจใหม่ของภูมิภาค คือ ค่าแรงต่ำ โดยในเวลานี้ค่าแรงของเวียดนามมีมูลค่าเพียง 1 ใน 3 ของค่าแรงในจีน และเป็นตัวดึงดูดให้ภาคการผลิตย้ายฐานมายังเวียดนาม ที่สำคัญก็คือ ในการจัดอันดับดัชนีทุนมนุษย์ หรือ Human Capital Index โดยธนาคารโลก พบว่าเวียดนามมีต้นทุนมนุษย์สูงที่สุดอันดับ 2 ของอาเซียน และยังมีประชากรคนหนุ่มสาวที่มีอายุเฉลี่ย 30 เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย (มูลค่า 963,648 ล้านเหรียญสหรัฐ) ตามด้วยไทย (มูลค่า 409,824 ล้านเหรียญสหรัฐ) และฟิลิปปินส์ (มูลค่า 369,108 ล้านเหรียญสหรัฐ)

สภาพอากาศ

ประกาศฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย (มีผลกระทบถึงวันที่ 31 พ.ค. 62) ฉบับที่ 12 ลงวันที่ 29 พ.ค. 62 ระบุว่าในช่วงวันที่ 29-31 พ.ค. 62 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่องและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ โดยจะมีผลกระทบตามภาคต่าง ๆ ดังนี้

ภาคเหนือ : เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร

ภาคกลาง : ราชบุรี กาญจนบุรี และอุทัยธานี

ภาคตะวันออก : นครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ : ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง และพังงา

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือด้วย

พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกต่อเนื่อง และ มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวัง