ข่าวในประเทศ

พล.ต. ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรง กอ.รมน. ที่สรุปการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา ในเรื่องการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นมาตรการสำคัญในการแก้ไขปัญหาการก่อเหตุความไม่สงบ โดย กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ จำนวน 3,873 นาย แบ่งออกเป็น ทหาร (กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า) 1,332 นาย/ตำรวจ (กกล.ตร.จชต.) 669 นาย และเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ 1,872 นาย ในส่วนของสำนักงาน กสทช. ได้จัดทำแอพลิเคชั่นการลงทะเบียนซิมการ์ดโทรศัพท์ระบบ “สองแชะ อัตลักษณ์” ทั้งนี้ หลังลงทะเบียนแล้วจะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิและการลงทะเบียนระบบ “สองแชะ อัตลักษณ์” (เป็นการบันทึกหมายเลขประจำตัวบัตรประชาชน และภาพใบหน้าของเจ้าของซิมการ์ดโทรศัพท์) สรุปมีผู้มาลงทะเบียนแล้ว 148,796 คน ซี่งจากการดำเนินการดังกล่าวสามารถป้องกันผู้แอบอ้างการใช้ซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ในทางที่ผิดกฎหมาย อีกทั้งยังสร้างความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในพื้นที่ ดังนั้น กอ.รมน. จึงขอเชิญชวนประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ร่วมกันลงทะเบียนซิมการ์ดได้จนถึงวันที่ 31 ต.ค. 62 ที่ศูนย์บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกระบบที่ให้บริการอยู่ในพื้นที่

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพประกาศปรับราคาตั๋วรถโดยสารประจำทางรายสัปดาห์และรายเดือน เนื่องจากมีมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง ครั้งที่ 7/62 เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 62 อนุมัติปรับให้เพิ่มราคาตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือนในรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ ดังนี้
– ตั๋วรายสัปดาห์ รถโดยสารธรรมดา ราคาเดิม 100 บาทต่อใบ เป็น 120 บาทต่อใบ
– รถโดยสารปรับอากาศ ราคาเดิม 200 บาทต่อใบ เป็นราคา 255 บาทต่อใบ
– ตั๋วรายเดือนรถโดยสารธรรมดา ราคาเดิม 400 บาทต่อใบ เป็น 480 บาทต่อใบ
– รถโดยสารปรับอากาศ ราคาเดิม 800 บาทต่อใบ เป็น 1,020 บาทต่อใบทั้งนี้ จะเริ่มปรับราคาตั๋วรายสัปดาห์และรายเดือนขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 62 สำหรับระยะที่ 2 มีดังนี้
– ตั๋วรายสัปดาห์ รถโดยสารธรรมดา ปรับเป็น 150 บาท
– ตัวรายเดือน ปรับเป็น 600 บาท
– รถโดยสารปรับอากาศ ตัวรายสัปดาห์ ปรับเป็น 270 บาท
– ตั๋วรายเดือน ปรับเป็น 1,080 บาทโดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 63 อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นราคาตัวดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราค่าโดยสารใหม่ที่มีการปรับขึ้นตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย. 62

ข่าวการเมือง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รอง นรม. และ รมว.สธ. กล่าวถึงปัญหาคนไข้ล้นโรงพยาบาลซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน เวลาไปโรงพยาบาล เห็นผู้ป่วยแออัด นอนตามพื้นโรงพยาบาล รู้สึกไม่สบายใจ เบื้องต้นมีแนวทางแก้ไขปัญหาโดยมองไปที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ที่มีอยู่ประมาณ 1.4 ล้านคน ต้องอบรมให้ อสม. มีความรู้เบื้องต้นในการดูแลผู้ป่วยขั้นพื้นฐานและสามารถใช้เทคโนโลยีสื่อสารกับหมอได้ อสม. จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการคัดกรองผู้ป่วย ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาล เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดการเสียเวลาของประชาชน ที่ต้องเดินทางไกลมาโรงพยาบาล นอกจากนั้น ยังเป็นการลดภาระแพทย์ พยาบาลให้มีเวลารักษาผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยเฉพาะทางได้เต็มที่ นอกจากนี้ รมว.สธ. ยังระบุเพิ่มเติมว่า นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์ เป็นเรื่องที่สังคมตั้งความหวังไว้กับพรรคภูมิใจไทย และเป็นนโยบายเร่งด่วนของ สธ. ที่ต้องทำให้เกิดผลงานอย่างเร็วที่สุด แต่นอกจากนั้น ยังมองไปถึงเรื่องของการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ ที่การรักษาต้องมุ่งให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนั้น ต้องลดภาระแพทย์ พยาบาล ต้องเพิ่มอัตราให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ป่วย ขณะเดียวกัน อสม. จะเข้ามามีบทบาทในระบบสาธารณสุขชุมชนมากยิ่งขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ

นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศร่วมมือกับกรมส่งเสริมสหกรณ์เตรียมลงพื้นที่และจัดสัมมนาในโครงการ “พัฒนาความพร้อมทางการค้าของสหกรณ์ไทยสู่การค้าเสรี” ครั้งที่ 2 ณ จ.ตรัง เพื่อสำรวจศักยภาพสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูปซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจและสินค้าสำคัญในพื้นที่โดยในวันที่ 25 ก.ค. 62 จะลงพื้นที่ ณ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด อ.รัษฎา เพื่อศึกษาดูงานสำรวจความพร้อม พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นกับสมาชิกสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่เกี่ยวกับการผลิตและการตลาดของสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยางแปรรูป นอกจากนี้ ในวันที่ 26 ก.ค. 62 จะเชิญเครือข่ายสหกรณ์ในพื้นที่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้อง มาร่วมเสวนาในประเด็นที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศักยภาพการส่งออกยางพาราของไทย การติดอาวุธสหกรณ์ไทยใช้ประโยชน์เอฟทีเอ และการยกระดับการแข่งขันสหกรณ์ไทยให้ก้าวไกลในโลกค้าเสรี ซึ่งจะช่วยให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรสามารถใช้เอฟทีเอสร้างแต้มต่อทางการค้าและขยายตลาดสู่ต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเสริมความรู้ด้านการพัฒนาคุณภาพและยกระดับมาตรฐานสินค้าเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหกรณ์อีกด้วยทั้งนี้ ยางพาราเป็นสินค้าที่ไทยส่งออกไปประเทศคู่ค้าโดยได้รับยกเว้นภาษีภายใต้เอฟทีเอหลายฉบับ โดยเฉพาะเอฟทีเออาเซียน-จีน ซึ่งจีนไม่เก็บภาษีนำเข้ากับสินค้ายางพาราที่ส่งออกจากไทยแล้ว นอกจากนี้สินค้ายางพารายังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญที่มีมูลค่าการส่งออกสูง โดยในช่วงครึ่งปี 62 (ม.ค.-พ.ค.) ไทยส่งออกสินค้ายางพาราและผลิตภัณฑ์ยาง มูลค่า 55,444 ล้านบาท ปริมาณ 1,377 ตัน โดยยางธรรมชาติที่กำหนดไว้ในทางเทคนิค (TSNR) มูลค่า 28,714 ล้านบาท น้ำยางธรรมชาติ มูลค่า 15,628 ล้านบาท ยางแผ่นรมควัน มูลค่า 10,333 ล้านบาท และยางแท่งหรือยางเครป มูลค่า 769 ล้านบาท โดยมีประเทศคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เป็นต้น

นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด (TSMC) เปิดเผยว่า ได้ประเมินปริมาณผลผลิตอ้อยเบื้องต้นประจำฤดูการผลิตปี 62/63 คาดว่าประมาณ 120 ล้านตันอ้อย สอดคล้องกับการสำรวจของสำนักงานอ้อยและน้ำตาลทราย โดยสิ่งที่ต้องมองต่อจากนี้ คือ ปัจจัยจากสภาพดินฟ้าอากาศในช่วง 1-2 เดือนนี้ ที่จะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกและคุณภาพอ้อยเข้าหีบอาจไม่ดีเท่ากับปีที่ผ่านมา จากปัญหาฝนทิ้งที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ดังนั้น โรงงานน้ำตาลพร้อมให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการเพาะปลูกอ้อย เพื่อทำให้ชาวไร่สามารถจัดส่งอ้อยที่มีคุณภาพดีแก่โรงงานเพื่อนำไปผลิตน้ำตาลได้มากขึ้นนอกจากนี้ และจากปัจจัยสถานการณ์ราคาน้ำตาลในตลาดโลกที่ตกต่ำนั้น อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไทย ในฐานะที่เป็นผู้ส่งออกน้ำตาลทรายอันดับ 2 ของโลก จะเข้าร่วมประชุมกับกลุ่มพันธมิตรเพื่อการปฎิรูปการค้าน้ำตาลโลก Global Sugar Alliance for Sugar Trade Reform and Liberalization (GSA) เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาราคาน้ำตาลในตลาดโลกตกต่ำจากการที่ประเทศอินเดียให้การอุดหนุนราคาอ้อยเพื่อช่วยเหลือชาวไร่ และชดเชยค่าขนส่งน้ำตาลจากโรงงานไปยังท่าเรือส่งออก ซึ่งเป็นการบิดเบือนกลไกราคาน้ำตาลในตลาดโลก เป็นผลให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำตาลทรายหลายราย ได้แก่ บราซิล ออสเตรเลีย และกัวเตมาลา ยื่นฟ้องต่อ WTO เพื่อกดดันให้อินเดียยกเลิกมาตรการดังกล่าว

ข่าวต่างประเทศ

ที่ประชุมพรรคอนุรักษ์นิยมมีมติเลือกนายบอริส จอห์นสัน วัย 55 ปี ก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่แทนที่นางเทเรซา เมย์ ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 62 มติดังกล่าวของพรรคอนุรักษ์นิยมส่งผลให้นายบอริส จอห์นสัน ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็น นรม. คนใหม่ของสหราชอาณาจักรทันที ต่อจากนางเทเรซา เมย์ โดยผลการลงคะแนนของสมาชิกพรรคอนุรักษ์นิยมได้ลงมติโหวตให้นายจอห์นสันถึง 92,153 คะแนน เอาชนะนายเจเรมี่ ฮันต์ ผู้สมัครคู่แข่งถึง 46,656 คะแนน นายจอห์นสันชนะด้วยผลคะแนนถึง 66% นายจอห์นสันได้กล่าวในการแถลงข่าวหลังจากการประกาศผลของทางพรรคฯ มีใจความบางส่วนว่า ตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไม่มีผู้นำพรรคอนุรักษ์นิยมคนใดต้องเผชิญกับสภาวะกดดันในการเมืองอังกฤษยุคใหม่มาก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่สหราชอาณาจักรต้องเจอกับสภาวะทางตันของแผนเบร็กซิต พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณการทำหน้าที่ของนางเทเรซา เมย์ ที่ทำหน้าที่ในฐานะนายกรัฐมนตรีอังกฤษอย่างดีมาโดยตลอด อย่างไรก็ดี เขายังไม่ได้แถลงถึงรายละเอียดและท่าทีอันชัดเจนถึงกระบวนการเบร็กซิตหลังจากนี้ ซึ่งยังคงคลุมเครือเนื่องจากอังกฤษยังไม่มีรัฐบาลชุดใหม่

นางแคร์รี่ แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษได้ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรง และโจมตีสำนักประสานงานของจีนประจำฮ่องกง โดยระบุว่าเป็นการท้าทายอธิปไตยของประเทศ แต่เธอก็ตกใจมากที่มีสมาชิกกลุ่มอาชญากรที่สวมเสื้อสีขาวทำร้ายประชาชนและกลุ่มผู้ประท้วงที่สถานีรถไฟ ขณะที่นักการเมืองฝ่ายค้านในฮ่องกงตำหนิเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ได้ปกป้องคุ้มครองประชาชน ปล่อยให้กลุ่มอาชญากรทำร้ายผู้คนซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อบรรทัดฐานของอารยธรรมฮ่องกง เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า ช่วงที่เกิดเหตุคือประมาณเที่ยงคืนนั้น ไม่มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งที่เกิดเหตุแล้วนานประมาณ 1 ชั่วโมงเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และไม่มีการจับกุมผู้ที่ทำร้ายร่างกายผู้ประท้วง ด้านนายสตีเฟน โล ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกง ยอมรับว่าตำรวจมีกำลังพลไม่พอที่จะระงับเหตุซึ่งเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ แต่การกล่าวหาว่าตำรวจร่วมมือกับกลุ่มอาชญากรนั้นเป็นการใส่ร้าย ทั้งยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัย 6 คนที่มีส่วนร่วมในการทำร้ายผู้ประท้วง สถานการณ์การชุมนุมที่ฮ่องกงส่งผลความสามารถในการค้า และการเป็นศูนย์กลางทางการเงินซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปถึงจีน สิงค์โปร์ และญี่ปุ่น ที่ตอนนี้พบว่ามีเงินทุนไหลออกจากฮ่องกงไปยังประเทศเหล่านี้ เพราะความไม่มั่นใจในเรื่องการค้าการลงทุน

สภาพอากาศ

ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนมากกว่าภาคอื่นๆ ส่วนภาคใต้ ภาคตะวันออก และภาคกลาง มีปริมาณฝนน้อยในระยะนี้ สำหรับทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง