ข่าวในประเทศ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มายังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่วงเวียนใหญ่ เขตคลองสาน กทม. เมื่อเสด็จฯถึงลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงวางพุ่มดอกไม้ส่วนพระองค์และของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะถวายบังคมพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกราบ แล้วเสด็จพระราชดำเนินกลับ

พล.อ.ประยุทธ์ฯ นรม. กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ ตนขออัญเชิญข้อความพระราชทานพรของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในบัตรอวยพรปีใหม่ ความว่า “สวัสดี สุขสันต์ สู่ปีใหม่ ด้วยการบำรุงรักษาสุขภาพอนามัย ด้วยร่างกายที่แข็งแรง จิตใจที่สดใสเข้มแข็ง ด้วยการเล่นกีฬาและออกกำลังกายในแบบต่างๆ” นอกจากนี้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้พระราชทาน ส.ค.ส. เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้ เป็นภาพฝีพระหัตถ์ “ปีกุน หมูอยู่ยั่งยืน” พร้อมข้อความพรปีใหม่พระราชทานแก่ปวงชนชาวไทย สรุปใจความได้ว่า “ให้คนไทยใช้ปัญญา ในการพิเคราะห์สิ่งต่างๆ” ซึ่งตนขออัญเชิญพรอันประเสริฐของทั้ง 2 พระองค์ มาเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สำหรับประชาชนชาวไทย โดยขอให้น้อมนำไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันเพื่อสร้างความสงบ ความสุข สำหรับตนเองและครอบครัว รวมทั้งประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าสำหรับสังคมและบ้านเมือง ซึ่งการออกกำลังกายและการดูแลรักษาสุขภาพ การใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งการให้ความสำคัญกับการสร้างความอบอุ่น มั่นคงของสถาบันครอบครัวนั้น จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของโลกในวันข้างหน้าในมิติต่างๆ

นายพุทธิพงษ์ฯ รอง ลธน. ฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ฯ นรม. ห่วงใยประชาชนที่เดินทางและเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ 62 โดยแนะให้ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือคนใกล้ชิดใช้ประโยชน์จากนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตให้สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกแห่งที่ใกล้ที่สุดโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายภายใน 72 ชม. โดย นรม. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เน้นดำเนินการตามแผนอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยภายใต้มาตรการ 777 ทั้งช่วงเวลา 7 วันก่อน ระหว่าง และหลังวันหยุดปีใหม่ โดยทุกหน่วยต้องบูรณาการกันทำงานแม้จะมีแผนของตนเอง รวมทั้งขอให้คนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือเจ้าหน้าที่แสดงน้ำใจต่อกัน ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน และเคารพกฎหมาย เพื่อให้เทศกาลปีใหม่เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างแท้จริง

ข่าวการเมือง

นายสราวุธฯ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมในฐานะเลขานุการคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) เปิดเผยถึงการดำเนินการเพื่อเลือกกรรมการตุลาการผู้ทรงคุณวุฒิในส่วนของบุคคลภายนอก ตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 43 ม. 36 วรรคหนึ่ง (3) (ที่แก้ไขใหม่) จำนวน 2 คน ซึ่งได้มีการเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 61 ที่ผ่านมา ซึ่งยอดผู้สมัครนับถึงวันที่ 28 ธ.ค. 61 มีผู้สมัครทั้งสิ้น 7 คน มีรายชื่อดังนี้
1. นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อายุ 69 ปี อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมและสำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรม
2. นายวรสิทธิ์ โรจนพานิช อายุ 74 ปี อดีต ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ
3. นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ อายุ 62 ปีนักวิชาการอิสระ สาขารัฐศาสตร์
4. พล.อ.จิระ โกมุทพงศ์ อายุ 65 ปี คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกฎหมาย
5. นายเผด็จ วงษ์เวียงจันทร์ อายุ 41 ปี เจ้าของกิจการ บจก. พี ดี อินเวนชั่น (ออกแบบและสร้างเครื่องจักรอุตสาหกรรม)
6. นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ อายุ 74 ปี ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ (ปัจจุบัน)
7. ดร. สุรพงศ์ นิ่มกุลรัตน์ อายุ 68 ปี กรรมการสภาสถาบันอาชีวะศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทั้งนี้ จะมีกำหนดปิดรับสมัครในวันที่ 2 ม.ค. 62 สำหรับผู้ที่มีสิทธิเลือก ก.ต. ผู้ทรงคุณวุฒิ (บุคคลภายนอก) ได้แก่ ผู้พิพากษาและผู้พิพากษาอาวุโสทั่วประเทศ โดยการเปิดให้สมัครเข้ารับการพิจารณาเสนอชื่อเป็น ก.ต. คนนอกในครั้งนี้เป็นไปตามกฎหมายใหม่ที่ให้ผู้พิพากษาทั่วประเทศเป็นผู้คัดเลือก

ข่าวเศรษฐกิจ

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส.เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่ผ่านมา มีมติให้ธนาคารดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพาราและชาวสวนปาล์มน้ำมันตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 2 โครงการวงเงินรวม 20,971 ล้านบาท ประกอบด้วย (1) โครงการช่วยเหลือและสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนยาง ปี 61 – 62 วงเงินงบประมาณ 17,513 ล้านบาท มีเกษตรกรชาวสวนยางได้รับประโยชน์ 1.3 ล้านราย ทั้งนี้จะโอนเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ก่อนวันที่ 14 พ.ย. 61 ตามพื้นที่ที่เปิดกรีดยางจริงไร่ละ 1,800 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ ให้กับเจ้าของสวนยาง 1,100 บาทต่อไร่ และคนกรีดยาง 700 บาทต่อไร่ ระยะเวลาดำเนินการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 61 – ก.ย. 62 และ (2) โครงการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โดยโอนเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์และปลูกปาล์มน้ำมันที่ให้ผลผลิตแล้ว (อายุมากกว่า 3 ปี) ตามพื้นที่ปลูกจริงไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ระยะเวลาดำเนินการ 10 เดือน ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 61 – ก.ย. 62 วงเงินงบประมาณ 3,458 ล้านบาท เกษตรกรที่ได้รับประโยชน์ 150,000 ราย พื้นที่ 2.22 ล้านไร่ ทั้งนี้ ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากวันที่ 27 ธ.ค. ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง 18,369 ราย เป็นเงิน 155 ล้านบาท และปาล์มน้ำมัน 21,842 ราย เป็นเงิน 279 ล้านบาท และ ธ.ก.ส.จะเร่งโอนเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรโดยเร็ว ซึ่งเกษตรกรที่เปิดใช้บริการ ธ.ก.ส. A-Mobile สามารถตรวจเช็คการโอนเงินดังกล่าวได้ทันที

ข่าวต่างประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซลประเทศเกาหลีใต้ว่า กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้แถลงว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบการแฮกหรือโจรกรรมข้อมูลส่วนตัวของชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์มาอยู่เกาหลีใต้เกือบ 1,000 ราย ซึ่งประกอบด้วยชื่อและที่อยู่ เป็นต้น นับเป็นครั้งแรกที่มีการโจรกรรมข้อมูลครั้งใหญ่โดยเป้าหมายอยู่ที่ศูนย์เฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ให้สามารถใช้ชีวิตและคุ้นเคยกับสังคมในเกาหลีใต้ ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนตัวของชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ถูกแฮกผ่านทางเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล(พีซี)ซึ่งมีรหัสลับ เมื่อเจ้าหน้าที่ที่ไม่ทราบเรื่องราวได้เปิดอีเมล์ขึ้นมาดูที่ศูนย์เฉพาะกิจฮานาตั้งอยู่ที่จังหวัดนอร์ธกยองซัง ข้อมูลก็จะถูกเจาะเข้าไป ทั้งนี้ เกาหลีใต้มีศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์อยู่ทั้งหมด 25 ศูนย์ทั่วประเทศ ทำหน้าที่สนับสนุนและช่วยเหลือชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์ทั้งหมดราว 30,000 คน
แถลงการณ์ของกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุว่า ทางการยอมรับว่าถูกแฮกข้อมูลไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและได้ดำเนินการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของศูนย์ฮานาที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบข้อมูลรั่วไหลนอกเหนือจากนี้อีก พร้อมกันนั้นก็ยังได้กล่าวขอโทษชาวเกาหลีเหนือแปรพักตร์และจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

สภาพอากาศ

ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ แต่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในระยะนี้